วันอังคารที่ 13 ธันวาคม พ.ศ. 2559



บันทึกการเรียนครั้งที่ 13
วันจันทร์ที่ 21 พฤศจิกายน พ.ศ. 2559
เวลา 13.30-17.30 น.


ความรู้ที่ได้รับ

คิดสร้างสรรค์ผ่านนิทาน

อาจารย์ให้ร้องเพลงและรำ จากนั้นก็กำหนดว่าให้จับกลุ่มกี่คน เป็นการจับกลุ่มแบบหนึ่งและยังได้รับความสนุกสนาน






แต่งนิทานและออกไปแสดง

นิทานเรื่องเจ้าเท้าเพื่อนรัก

ตัวละคร
1. เท้าซ้าย
2. เท้าขวา
3. ก่อนหิน
4. ลูกมด

เนื้อเรื่อง
เท้าซ้ายชวนเท้าขวาไปหาเพื่อนก็คือ ลูกมด แต่เท้าขวาไม่ยอมไปบอกอยากไปเดินเล่นมากกว่า เท้าซ้ายจึงตามใจเท้าขวา เมื่อเดินไปเรื่อยๆเท้าซ้ายก็เดินสะดุดก้อนหิน เท้าขวาก็ต่อว่าเท้าซ้ายที่เดินไม่ระวัง และยังโทษก้อนหินว่าทำไมมาอยู่ตรงนี้ เท้าซ้ายมีอาการบาดเจ็บทำให้เดินต่อไม่ได้ เท้าขวาก็อารมณ์เสียเพราะอยากไปเดินเล่นเร็วๆ ลูกมดเห็นเพื่อนของตนจึงชวนแม่เดินมาหาเพื่อน แลัวจึงสอบถามเรื่องราว แม่มดเลยบอกว่า อยู่ด้วยกันต้องสามัคคีและรักกัน เท้าขวาเลยขอโทษเท้าซ้ายและก้อนหินที่ต่อว่าพวกเขา แล้วเท้าซ้ายกับเท้าขวาก็เข้าใจกันและพร้อมที่จะเดินไปด้วยกันต่อไป






ข้อคิดจากนิทาน
การช่วยเหลือกันและกัน ความสามัคคี


นิทานเรื่องก้อนเมฆเพื่อนรัก



ข้อคิดจากนิทาน
การช่วยเหลือกัน ความสามัคคี


นิทานเรื่องการเดินทางของจักรยาน



ข้อคิดจากนิทาน
ความอดทน การใช้รถใช้ถนน


นิทานเรื่องชาวประมงกับปลา




ข้อคิดจากนิทาน
ความสามัคคี


นิทานเรื่องรองเท้าที่หายไป





ข้อคิดจากนิทาน
การเก็บรักษาของ การมีระเบียบ


รูปแบบการเล่านิทาน
1.ไม่มีการบรรยาย ผู้แสดงพูดเอง
2. มีการบรรยาย ผู้แสดงพูดด้วย
3. มีการบรรยายอย่างเดียว

การนำความรู้ไปประยุกต์ใช้
การฟังนิทานทำให้เด็กสนุกสนาน นอกจากนั้นเมื่อเด็กได้สมมุติตนเองเป็นตัวละครทำให้เด็กกล้าแสดงออกและได้ใช้จินตนาการความคิดสร้างสรรค์ นิทานสามารถสอดแทรกสิ่งที่ต้องการสอนเด็กได้ นอกจากนี้การได้คิดเนื้อเรื่องนิทานร่วมกันทำให้ด็กได้แสดงออกทางความคิด รู้จักการยอมรับความคิดเห็นของผู้อื่น รู้จักการทำงานร่วมกัน

ประเมินผล
ประเมินตนเอง  มีส่วนร่วมในความคิด และการแสดง รับฟะงความคิดเห็นของเพื่อน
ประเมินเพื่อน ร่วมกันคิดเนื้อเรื่อง และตั้งใจแสดงนิทาน 
ประเมินอาจารย์ อาจารย์อธิบายเพิ่มเติม และกระตุ้นเราด้วยคำถาม




ไม่มีความคิดเห็น:

แสดงความคิดเห็น